วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

เกษตรกรชาวไร่อ้อย”ประสบปัญหาราคาตกตำ่

สระบุรี- เกษตรกรชาวไร่อ้อย ประสบปัญหาราคาตกต่ำ หนำซ้ำเจอพิษภัยแล้ง รวมตัวกว่า 500 คน ยื่นหนังสือส่งต่อถึงรัฐบาล วอนนายกรัฐมนตรีพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือ


เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2562 เวลา 15.00 น. ณ สมาคมชาวไร่อ้อยเขื่อนป่าสัก ตั้งอยู่เลขที่ 22 หมู่ 1 ตำบลคำพราน อำเภอวังม่วง จังหวัดสระบุรี เกษตรกรชาวไร่อ้อยทั้งสองสมาคม ประกอบด้วย สมาคมชาวไร่อ้อยเขื่อนป่าสักมีสมาชิกกว่า3, 800ราย เป็นหนึ่งที่ออกมากว่า500คน ได้รวมตัวกัน พร้อมถือป้ายไวนิล แสดงข้อความเดือดร้อน จากปัญหาราคาอ้อยตกต่ำ หนำซ้ำยังประสบปัญหาภาวะภัยแล้ง เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาล พิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือ เพิ่มราคาอ้อยที่ตกต่ำในฤดูกาลนี้ ให้เกษตรกรได้รับค่าอ้อยในราคาตันละ 1,000 บาท ที่ความหวาน 10 c.c.s. อันจะเป็นการสอดรับกับนโยบายพรรคร่วมรัฐบาลที่เคยสัญญาประกาศกับพี่น้องชาวไร่อ้อยไว้ก่อนการเลือกตั้งที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศทั่วไปภายในงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วังม่วง เจ้าหน้าฝ่ายปกครอง สมาชิก อส. อำเภอวังม่วง เข้าร่วมสังเกตการณ์ และอำนวยความสะดวกรักษาความปลอดภัย

นายสมจิตต์ รุจิรวรรธน์ นายกสมาคมชาวไร่อ้อยเขื่อนป่าสัก กล่าวว่า ด้วยขณะนี้ใกล้ฤดูกาลผลิตอ้อยและน้ำตาลทรายฤดูการผลิตปี 2562/2563 ซึ่งก่อนการเปิดหีบผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นกระทรวงหลักในการบริหารอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายโดยคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย จะทำการกำหนดราคาอ้อยเพื่อจ่ายค่าอ้อยให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย ที่ตัดอ้อยส่งโรงงาน แต่จากการประเมินสถานการณ์ราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกขณะนี้ยังอยู่ในช่วงตกต่ำ ซึ่งวิกฤติราคาดังกล่าว ได้เกิดขึ้นติดต่อกันมา 2 ปี แล้ว และหากสถานการณ์ราคายังเป็นอยู่เช่นนี้ การกำหนดราคาอ้อยจะไม่เกินตันละ 700 บาท ขณะที่ต้นทุนการปลูกอ้อยอยู่ที่ตันละ 1,131 บาท ประกอบกับปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งตัวมากยิ่งขึ้น ราคาอ้อยยิ่งตกต่ำลงไปอีก จนทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยขาดทุนต่อเนื่องมาเข้าปี 3 แล้ว และหากไม่มีการแก้ไขเขียวยาต่อปัญหาดังกล่าว พี่น้องเกษตรกรที่ปลูกอ้อย ซึ่งมีมากกว่า 400,000 ครัวเรือนทั้งประเทศ จะประสบปัญหาจากรายได้ไม่พอดำรงชีพและประสบปัญหาการขาดทุนติดต่อกันหลายปี อันเป็นการซ้ำเติมหนี้สินให้เพิ่มมากขึ้น จนนำไปสู่สภาวะล้มละลายทางอาชีพทำกิน และครอบครัวตามมา


จากนั้น พันเอก เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลนรองกอ.รมน.จังหวัดสระบุรี ได้เดินทางมารับหนังสือข้อเรียกร้องและรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อย เพื่อมอบหนังสือผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เพื่อส่งต่อไปยัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือ เพิ่มราคาอ้อยที่ตกต่ำ ให้เกษตรกรได้รับค่าอ้อยตันละ 1,000 บาท ที่ความหวาน 10 ซี.ซี.เอส.
โดยมี นายสมบัติ อำนาคะ สมาชิิกสภาผู้แทนราษฏร สระบุรี เขต2 ได้ลงพื้นที่พบปะพุดคุยทักทายพี่น้องเกษตรกรชาวไร่อ้อยพร้อมรับปากจะเร่งให้การช่วยเหลือพี่น้องชาวไร่อ้อยให้เร็วที่สุด พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับมอบหนังสือในครั้งนี้ สร้างความพอใจแก่กลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อย ก่อนที่จะทำการแยกย้ายในเวลาต่อมา

ด้านเกษตรกรรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ในปีนี้นอกจากจะประสบปัญหาราคาอ้อยตกต่ำแล้วนั้น เกษตรกรในพื้นที่สระบุรี ส่วนใหญ่ ต่างพากันประสบปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วงมาตั้งแต่ต้นปี หนำซ้ำยังถูกหนอนกอ ศรัตรูพืชเข้ากัดกินทำลายยอดอ่อน จนผลผลิตได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง จึงอยากวอนให้รัฐบาลเร่งหามาตรการช่วยเหลือโดยด่วน เพราะชาวไร่อ้อยต่างต้องแบกภาระขาดทุนมาอย่างต่อเนื่อง
จากข่าวตามสื่อมวลชนที่จะเลิกใช้ 3 สารเคมี(พาราควอต ไกลโซเซต คลอร์ไพริฟอส ) โดยมีเกษตรกรส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้สารเคมีและแรงงานที่จะกำจัดวัชพืชนั้นและยังหาข้อยุติที่ไม่ชัดเจนหากจะมีการงดใช้สารเคมีดังกล่าวควรที่จะมีสารเคมีตัวอื่นที่มีประสิทธิ์ภาพและราคาที่ใกล้เคียงกันมาทดแทนได้หรือไม่

สมพงษ์ ปานรุ่ง รายงาน จ. สระบุรี

Loading