เดอะโอ๋!!! ประชุมกำชับแนวทางในการปฏิบัติในการระดมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ (ccoc )ช่วงเทศกาลคริสมาสต์และวันขึ้นปีใหม่ 2563
วันนี้ 25 ธ.ค.62 ที่ห้องประชุม ศปก.ภ.1 พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ.1 / เอราวัณ 3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุภธีร์ บุญครองผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ศุภากรณ์ จันทาบุตร รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.เลิศชาย จำปาทอง รอง ผบก.สส.ภ.1 รอง ผบก.ภ.จว.ที่รับผิดชอบงานสืบสวน, รองหัวหน้าศูนย์ฯทำหน้าที่ควบคุมและขับเคลื่อนการปฏิบัติของศูนย์ฯ, ผกก.สส.ภ.จว. และหัวหน้าสถานีทุกสถานีและเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกำชับแนวทางในการปฏิบัติในการระดมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ (ccoc )ช่วงเทศกาลคริสมาสต์และวันขึ้นปีใหม่ 2563 (ตั้งเเต่วันที่ 21-27 ธ.ค.62)ด้วยระบบทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) อ้างถึงหนังสือ ภ.1 ที่ 0016.21/6500 ลง 19 ธ.ค.62 เรื่องให้เปิดศูนย์ระดมติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ( ccoc ) ช่วงเทศกาลคริสมาสต์และวันขึ้นปีใหม่ 2563 (ตั้งเเต่วันที่ 21-27 ธ.ค.62)
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวในที่ประชุมโดยกำชับให้ ภ.จว.ในสังกัด ภ.1 และ บก.สส.ภ.1 เปิดศูนย์ปฏิบัติการสั่งการและควบคุม (Command and Control Operations Center : CCOC) เพื่อเป็นศูนย์อำนวยการ ควบคุม สั่งการติดตามและประสานการปฏิบัติในการบริหารติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ณ ที่ตั้งของหน่วย ในวันนี้ (20 ธ.ค.2562) ก่อนเวลา 12.00 น.โดยให้มี ผบก.ภ.จว. เป็นหัวหน้าศูนย์ ทำหน้าที่ควบคุมการปฏิบัติในภาพรวมของศูนย์ , รอง ผบก.ภ.จว.ที่รับผิดชอบงานสืบสวน เป็นรองหัวหน้าศูนย์ ทำหน้าที่ควบคุมและขับเคลื่อนการปฏิบัติของศูนย์ , ผกก.สส.ภ.จว. และ หน.สภ. ทำหน้าที่ควบคุม ขับเคลื่อน และปฏิบัติให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ ภ.1 กำหนด และให้ทุกหน่วยแจ้งรายชื่อหัวหน้า , รองหัวหน้าศูนย์ และเจ้าหน้าที่รับผิดชอบในการรายงานระดับ สว. , รอง สว. และชั้นประทวน พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ ให้ ภ.1 (ผ่าน บก.สส.ภ.1) หรือช่องทางกลุ่มไลน์ “ศูนย์ CCOC ตร.ภ.1” ทราบ ภายใน วันนี้ (20 ธ.ค.2562) เวลา 12.00 น. และให้ทุกหน่วยเร่งรัดจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ทั้งที่เป็นหมายจับที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนเอง และหมายจับที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยอื่น พร้อมทั้งตรวจสอบบุคคลตามหมายจับเพื่อเป็นข้อมูลในการสืบสวนจับกุมโดยให้มีผลการจับกุมตามเป้าหมายที่ ภ.1 ได้กำหนดให้ในแต่วัน ให้บรรลุเป้าหมายให้จงได้ และให้ รอง ผบก.ภ.จว.ที่รับผิดชอบงานสืบสวน และในฐานะรองหัวหน้าศูนย์ เป็นผู้ควบคุม ขับเคลื่อน สั่งการ และเร่งรัดในการระดมติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในครั้งนี้อย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง และให้ ฝ่ายสอบสวน เตรียมสำนวนและร่างสำนวนการสอบสวนที่ได้ออกหมายจับไว้แล้ว เมื่อได้ตัวผู้ต้องหาตามสำนวนดังกล่าวแล้ว สามารถดำเนินการได้ทันที พร้อมการบันทึกข้อมูลเข้าสู่ระบบ CRIMES และ PDC ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ต้องให้ความสำคัญ พร้อมทั้งตรวจสอบการปฏิบัติของหน่วยในสังกัด ให้บันทึกข้อมูลหมายจับให้ถูกต้อง ครบถ้วน และต้องเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ และให้ทุกหน่วยเน้นย้ำการปฏิบัติ ก่อนทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับทุกครั้ง ให้ตรวจสอบหมายจับไปยังหน่วยเจ้าของหมายจับทุกครั้ง ว่าหมายจับยังมีผลอยู่หรือไม่ เมื่อมีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ให้ตรวจสอบข้อมูลในระบบ PDC ว่าผู้ต้องหานั้นมีหมายจับที่ออกโดยหน่วยอื่นอีกหรือไม่ หากมีให้ดำเนินการอายัดตัวผู้ต้องหาไปยัง พงส. ของ สภ.เจ้าของหมายจับนั้นๆ ให้ทุกหน่วยรายงานผลการปฏิบัติในรอบวัน ตั้งแต่วันที่ 21 – 27 ธ.ค.2562 ตามแบบฟอร์มที่กำหนด โดยให้ดำเนินการ(1)การรายงานระหว่างวัน แบ่งการรายงานเป็น 3 ช่วง คือ- ช่วงที่ 1 เวลา 12.00 น.- ช่วงที่ 2 เวลา 18.00 น.- ช่วงที่ 3 เวลา 24.00 น.โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ระดับ สว. เป็นผู้รับผิดชอบการรายงานในช่องกลุ่มไลน์ “CCOC ตร.ภ.1” ให้ตรงตามช่วงเวลา และแบบฟอร์มที่กำหนด โดยให้เริ่มรายงานครั้งแรก ในวันที่ 21 ธ.ค.2562 เวลา 12.00 น.(2)การรายงานประจำวัน ให้ตัดยอดการจับกุม ณ เวลา 24.00 น. ของวันนั้นๆ แล้วรายงานให้ ภ.1 (ผ่าน บก.สส.ภ.1) ทราบ ก่อนเวลา 05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ห้ามล่าช้าโดดเด็ดขาด (3)การรายงานสรุปผล ให้ทุกหน่วยสรุปผลการปฏิบัติในภาพรวม ตั้งแต่วันที่ 21 – 27 ธ.ค.2562 ให้ ภ.1 (ผ่าน บก.สส.ภ.1) ทราบ ภายในวันที่ 28 ธ.ค.2562 ก่อนเวลา 12.00 น. เพื่อรวบรวมผลการปฏิบัติส่ง ตร.ต่อไป และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ตรวจสอบ ควบคุม กำกับดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ห้ามมิให้เรียกรับผลประโยชน์จากผู้กระทำความผิด การจับกุมในลักษณะกลั่นแกล้ง มีส่วนพัวพัน หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินการทั้งคดีอาญา ทางวินัยและทางปกครอง อย่างถึงที่สุด โดยการทำงานของนักสืบต้องยึดกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ข้อบังคับ นโยบายของผู้บังคับบัญชาโดยเคร่งครัด
