วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

สุพรรณบุรี” 7 ญาติข่มขืนมาราธอน 2 ปีเด็กอายุ 12 ปี”รองผู้การสุพรรณฯระบุโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต

16 มิ.ย. 2020
6

เผย 7 ญาติบัดซบข่มขืน ป.6 มาราธอน 2 ปี ทั้งบังคับอมนกเขา ใช้มีดข่มขู่ฆ่า รองผู้การสุพรรณฯระบุโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต ญาติรุดประกันตัวออกไปแล้ว 1 ราย

 

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 มิ.ย. พ.ต.อ.มาโนชญ์ จิตรภักดี รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.ศาสตรา คงนาม รอง ผกก.ป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.ต.ท.สะอาด ดัดธุยะวัตร์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุพรรณบุรี รวมกันแถลงข่าวความคืบหน้าสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุ 12 ปี ที่ห้องประชุม สภ.เมืองสุพรรณบุรี

พ.ต.อ.มาโนชญ์ กล่าวว่าสืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ผู้เสียหายซึ่งเป็นพี่สาวและอยู่ในฐานะเป็นผู้ปกครองของ ด.ญ. 12 ปี ได้พาเหยื่อพาพบพนักงานสอบสวน และแจ้งว่าได้ถูกข่มขืนกระทำชำเราโดยบุคคลใกล้ชิดจำนวนหลายคน ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายได้พาเหยื่อไปตรวจร่างกายที่ รพ.มีผลของการตรวจว่าถูกกระทำล่วงละเมิดทางเพศจริง ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ทำการสอบปากคำเหยื่อต่อหน้าสหวิชาชีพ ผลการสอบปากคำ จากการให้การของเหยื่อทราบว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศต่อเหยื่อ โดยมีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 7 คนเป็นผู้ใหญ่ 5 คน เยาวชนจำนวน 2 คน โดยผู้ต้องหาส่วนหนึ่งเป็นเครือญาติและอยู่ในละแวกบ้าน ทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถทำการออกหมายจับผู้ต้องหาซึ่งเป็นผู้ใหญ่ ในข้อหากระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และกระทำอนาจาร แก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี และขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น นี้คือหาข้อกล่าวของผู้ใหญ่ทั้ง 5 ราย
และหลังจากออกหมายจับเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.และทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 5 รายตามหมายจับสำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 รายจะมีลักษณะพฤติกรรมการกระทำผิดแตกต่างกันไป โดยรายที่ 1. นายอนันต์ นรินทร์นอก อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 หมู่ 5 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี มีพฤติการณ์กระทำชำเรากับเหยื่อที่บ้านของผู้ต้องหาเองจนสำเร็จความใคร่และใช้นิ้วสอดใส่อวัยวะเพศเหยื่อ โดยข่มขู่ว่าหากไปบอกใครจะทำร้าย โดยกระทำการหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายวันที่ 3 มิ.ย. ผู้ต้องหารายที่ 2.นายทรงวุธต์ หันกลาง อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 78 หมู่ 5 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี มีพฤติกรรมบังคับขู่เข็ญกระทำชำเราเหยื่อที่บ้านพักตั้งแต่ปลายเดือน ก.พ.61 เรื่อยมา โดยเฉลี่ยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง จนสุดท้ายเดือน พ.ค.63ในขณะที่ไม่คนอยู่บ้าน ผู้ต้องหารายที่ 3.นายประเชิญชาวปลายนา อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 23/1 หมู่ 2 ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี กระทำชำเราในบ้านของเหยื่อหลายครั้งในห้องน้ำ โดยบังคับให้มีอมอวัยวะเพศจนสำเร็จความใคร่และข่มขู่ว่าจะฆ่าถ้าเอาเรื่องไปบอกคนอื่น ผู้ต้องหารายที่ 4.นายพะเยาว์ เรืองฤทธิ์ อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 79 หมู่ 5 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี เป็นคนในละแวกใกล้เคียง เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อขณะที่ไม่มีคนอยู่ โดยให้เหยื่ออมอวัยวะเพศจนสำเร็จความใคร่ ผู้ต้องหารายที่ 5 นายสุรัตน์ ภูฆัง อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 170 หมู่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นลูกเขยของนายอนันต์ ผู้ต้องหาที่ 1 ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกับเหยื่อบังคับให้เหยื่ออมอวัยวะเพศ ตามคำให้การของเหยื่อก็คือวันเว้นวัน วันสุดท้ายก็คือวันที่ 3 มิ.ย. ส่วนอีก 2 รายซึ่งเป็นเด็กมีการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหลายครั้งเช่นกัน ทางพนักงานสอบสวนจะได้ทำหนังสือเรียกตัวมาสอบปากคำเนื่องจากออกหมายจับไม่ได้เพราะเป็นเด็ก อย่างไรก็ตามผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ทั้งหมดยังให้การปฎิเสธ โดยอ้างว่าเด็กสติไม่ดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากการสอบปากคำเด็กพบว่าไม่ได้เป็นไปตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง

พ.ต.อ.มาโนชญ์ กล่าวต่อว่าคดีแบบนี้อัตราโทษค่อนข้างสูง มีโทษจำคุก 7-20 ปี และถ้ามีการข่มขู่เข็ญบังคับโดยใช้อาวุธข่มขู่มีโทษถึงจำคุกตลอดชีวิต ซึ่ง 1 ใน 5 ผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้อาวุธข่มขู่ด้วย ทางตำรวจมีพยานหลักฐานที่จะเอาผิดผู้ต้องหาได้ จากการตรวจร่างกายพบว่าเหยื่อถูกกระทำแน่นอน เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องไปหาสืบหาพยานบุคคล พยานแวดล้อมต่างๆมาประกอบ รวมทั้งพาพาเหยื่อไปชี้จุดที่เกิดเหตุ ตามที่ให้การแต่ละครั้งว่าคนไหนกระทำอย่างไรตรงไหน เอามาประกอบรวบรวมเป็นพยานหลักฐาน ส่วนที่ผ่านมาไม่มีการระเคะระคายเพราะคนที่เป็นญาติกระทำเสียเอง เรื่องจึงเงียบ มีเพียงเหยื่อกับตัวพี่สาวที่รับรู้แต่ไม่สามารถทำอะไรเพราะเกรงกลัว ส่วนบริเวณรอบนอกเป็นญาติห่างๆ และมีผู้ต้องหาบางรายข่มขู่ทำร้ายกันถึงชีวิต โดยมีมีดเหน็บข้างเอว นี้คำให้การของเหยื่อ ทำให้การเกิดความกลัว
สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าวเวลาประมาณ 11.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดสุพรรณบุรี โดยคัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลาประมาณ 13.00 น. น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย จะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังเหยื่อที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุพรรณบุรี

จากนั้นเมื่อเวลา 13.00 น. น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณบุรี นายสรชัด สุจิตต์ สส.สุพรรณบุรี นายวัฒนา ยั่งยืน ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี เดินทางไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สุพรรณบุรี โดยมีนางอุรัยวรรณ์ แสงแก้ว หัวหน้าบ้านพักเด็กฯ รายงานถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทาง น.ส.กัญจนา ได้เข้าเยี่ยมเด็กและเข้าพูดคุยหาแนวทางการช่วยเหลือ โดยกล่าวว่า ต้องการมาให้กำลังใจน้อง และมาดูว่าจะช่วยจัดการกับชีวิตน้องต่อไปอย่างไร อันนี้เป็นประเด็นหลัก ซึ่งสภาพจิตใจน้องที่เห็นด้วยสายตาน้องโอเคไม่เครียด จึงให้กำลังใจให้น้องก้าวเดินไปข้างหน้าและมีพลังใจที่เข้มแข็ง ทางผู้ที่อยู่ในแวดล้อมตรงนี้จะพยายามให้อนาคตที่ดีที่สุดสำหรับน้อง ทั้งด้านความปลอดภัย การศึกษา และที่อยู่อาศัย ต้องขอขอบคุณผู้ที่นำเรื่องน้องมาสู่กระบวนการกฎหมาย สู่สาธารณชน เพื่อที่จะเอาผิดกับผู้ที่กระทำกับน้อง คนทำผิดจะต้องได้รับการลงโทษ มิฉะนั้นจะเป็นเยี่ยงอย่างให้กับชุมชนหรือสังคมที่อื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมรับไม่ได้ โดยหลังจากนี้น้องคงยากที่จะกลับไปสู่ชุมชนเดิม ทางผู้เกี่ยวข้องต่างๆ จะต้องมีการประเมินว่าจะหาที่อยู่ที่เหมาะสมให้กับน้อง และการศึกษาน้องจะต้องต่อเนื่องด้วย ส่วนตัวรับไม่ได้ถ้าคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องในครอบครัวและจะต้องถูกเก็บไว้ในครอบครัว อย่าเอามาพูดเพราะเป็นญาติพี่น้องกัน อันนี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะครอบครัวควรเป็นผู้ให้ความอบอุ่นกับเด็กไม่ควรมาทำลายอนาคตเด็ก

 

ด้านนายนิมิต วันไชยธนวงศ์ ผวจ.สุพรรณบุรี เผยว่า เข้าไปเยี่ยมเด็กมา เด็กมีสุขภาพจิตที่ดี วันนี้ยังร้องเพลงผู้ชายในฝัน ของพุ่มพวง ดองจันทร์ ให้ฟัง ก็เป็นสิ่งที่เราคลายกังวลลงได้บ้าง ส่วนพี่สาวเด็ก ทางด้านนายอำเภอเมืองสุพรรณบุรี ได้ย้ำไปที่กำนัน ผู้ใหญ้บ้าน ในพื้นที่แล้วให้ช่วยสอดส่องดูแล ว่าตัวพี่สาวเขาได้รับผลกระทบจากการช่วยน้องออกมาเปิดโปงเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน แต่ก็ทราบว่าไม่ค่อยเป็นที่พอใจของกลุ่มญาติผู้ต้องหา นายนิมิต กล่าวต่อ ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุพรรณบุรี ก็จะเข้าไปคุยกับพี่สาวว่าถ้าอยู่แล้วถูกคุกคามเราก็จะพามาอยู่ข้างนอกที่มีความปลอดภัยไม่ต้องมีใครมาคอยทำให้วิตกกังวล

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ญาติของผู้ต้องหาทั้ง 5 รายได้ยื่นเรื่องประกันตัวในชั้นศาล หลังจากที่ในชั้นพนักงานสอบสวนมีการคัดค้านการประกันตัว โดยทางญาตินายสุรัตน์ ได้ใช้หลักทรัพย์ 3.5 แสนบาทประกันตัวออกไปแล้ว 1 คน ส่วนผู้ต้องหาอีก 4 หลักทรัพย์ไม่เพียงพอ ทางศาลจึงส่งตัวไปฝากขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดสุพรรณบุรี

ทีมข่าวสุพรรณบุรี

Loading