2ตายาย จะฆ่าตัวตายหลังกรมศิลป์ ไล่รื้อบ้าน ซึ้งใจนายอำเภอรุดช่วยเจรจาระงับ
เวลา 10.00น.วันที่ 16 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 30 หมู่.5 ริมถนนพระร่วง ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย หลังทราบว่ามีข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านกับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย พบเป็นกระต๊อบหลังเล็กข้างฝาตีแปะด้วยปีกไม้ อยู่ท้ายที่ดินเนื้อที่ 1ไร่ นอกกำแพงเมือง บริเวณกลางผืนที่ดินพบกำลังก่อสร้างบ้านพักยังไม่แล้วเสร็จมีเพียงตั้งเสาปูนและมุงหลังคากระเบื้องใว้เท่านั้น พบนายสายลวด อยู่เปีย อายุ 69ปี และนางเลิม อยู่เปีย อายุ65ปี ภรรยา เจ้าของบ้าน พร้อมเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่ง นางเลิม เปิดเผยว่าครอบครัวตนประกอบอาชีพทำนา ยกบ้านหลังเล็กๆอยู่บนที่ดินผืนนี้ ซึ่งอยู่ติดทางเดินไปที่ทำการอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย ซึ่งอยู่ใกล้กัน โดยอยู่อาศัยมาไม่ต่ำกว่า 40ปี ปัจจุบันทางเดินเส้นนี้กลายเป็นถนนลาดยางชื่อว่าถนนพระร่วง ต่อมาบ้านชำรุดทรุดโทรมจนพัง จึงรื้อไปปลูกกระท่อมท้ายที่ดิน อยู่กัน 2คนตายาย ต่อมาเมื่อปีที่แล้วเศรษฐกิจไม่ดีก่อนโควิด-19 ระบาด ลูกสาวที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด บอกว่าอยากจะมาอยู่บ้าน จึงเริ่มตั้งเสาและมุงหลังคาตรงกลางที่ดิน แต่เนื่องด้วยบริเวณดังกล่าวถูกประกาศให้เป็นเขตอุทยานประวัติศาสตร์ อยู่ในความรับผิดชอบของกรมศิลปากร สามีกับลูกสาวจึงไปทำเรื่องขออนุญาตก่อสร้าง และเสียเงินค่าเขียนแบบบ้านไป800บาท เมื่อได้แบบบ้านมาจึงเริ่มยกเสาและมุงหลังคา
ต่อมามีหนังสือจากอุทยานฯลงวันที่ 27ม.ค.63 ให้ระงับการก่อสร้าง เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีกรมศิลปากร จึงหยุดการก่อสร้างใว้ก่อน จนกระทั่งได้รับหนังสือจากกรมศิลปากร ลงวันที่12 พ.ค. 63 ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกภายใน 60วัน เนื่องจากที่ดินบริเวณดังกล่าวถูกประกาศให้เป็นเขตโบราณสถาน ตนและครอบครัวเครียดมากเพราะอาศัยอยู่ที่นี่มานานไม่ต่ำกว่า 40ปีจะต้องไร้ที่อยู่ และเมื่อวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมาทราบว่าเจ้าหน้าที่จะนำกำลังมารื้อถอน ชาวบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณเดียวกันกว่า50ครอบครัวต่างมาชุมนุมกันเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่รื้อถอน เนื่องจากอยู่อาศัยกันมาก่อนประกาศเขตอุทยานฯ และเพื่อนบ้านกลัวว่าหากรื้อถอนบ้านตนได้ ทุกหลังคาเรือนก็จะถูกรื้อเช่นกันเนื่องจากมีการข่มขู่ใว้ว่าจะเชือดไก่ให้ลิงดู ต่อมานายกองโทพยุงศักย์ สุวรรณโณ นายอำเภอ และนายสมนึก สุกอร่าม กำนัน ต.ศรีสัชนาลัย เดินทางมาพบชาวบ้านเมื่อได้รับทราบข้อมูลแล้ว จึงรายงานให้ท่านผู้ว่าฯรับทราบ แล้วประสานกับหัวหน้าอุทยานฯขอให้ระงับการรื้อถอนใว้ก่อน แล้วจะได้ร่วมกันตรวจสอบ ว่าชาวบ้านอาศัยอยู่ก่อนที่จะประกาศเขตอุทยานจริงหรือไม่เพื่อจะได้หาทางออกร่วมกัน ตนและชาวบ้านต้องขอขอบคุณท่านนายอำเภอเป็นอย่างมากเพราะถ้าถูกรื้อถอนจริงๆตนจะฆ่าตัวตาย ****** ด้านนายเย็น พานมั่ง อายุ66ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่าตั้งแต่เกิดมาก็เห็นมีชาวบ้านอาศัยอยู่บริเวณนี้แล้ว ยืนยันว่าชาวบ้านอยู่อาศัยมาก่อนที่จะเริ่มมีการบูรณะโบราณสถานของกรมศิลปากรแน่นอน
ธนกฤต ท้าวบุญยืนสุโขทัย
