วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

เดอะโอ๋ !!! นำทีมสืบสวนบุกทลายแก๊งค้ายารายใหญ่เมืองสุพรรณบุรี พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวนมาก “ยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน เคตามิน ยาอี ยาเสียสาว อาวุธปืน

26 พ.ย. 2022
69

เดอะโอ๋ !!! นำทีมสืบสวนบุกทลายแก๊งค้ายารายใหญ่เมืองสุพรรณบุรี พร้อมตรวจยึดของกลางจำนวนมาก “ยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน เคตามิน ยาอี ยาเสียสาว อาวุธปืน

วันนี้ 25 พ.ย.65 ที่กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรีพล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7 นายปรีชา ทองคำ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นายทัศน์พงษ์ วัฒนายากร ผอ.สำนักงาน ปปส.ภ.7 พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ เฉลียวศิลป์ รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรีพ.ต.อ.ธนเดช ตันติอาภา รอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.อภิชิต สุรพินิจ รอง ผบก.สส.ภ.7พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพย์เนตร ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรี พ.อ.ผ่านศึก อนันตพงษ์ รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดสุพรรณบุรี พ.ต.อ.มงคล สุนทรวิภาต นวท.(สบ.4) พฐ.จว.สุพรรณบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย นางสาวฉันทนา หรือ พลอย / ศรี ซื่อสัตย์ อายุ 22 ปี นาย ภัทร์นรินท์ หรือ โจ้ / มินต์ จันทร์คนึง อายุ 25 ปี และ นายธีรัตม์ หรือ เพชร ประยงธนาวงศ์ อายุ 28 ปี พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 142 มัด รวมประมาณ 284,000 เม็ด ยาไอซ์ 12 กิโลกรัม เฮโรอีน 300 กรัม เคตามีน 938.24 กรัม ยาไฟว์ ไฟว์ 30 แผง รวม 300 เม็ด เคตามีนเปียก 300 กรัม อาวุธปืนลูกโม่ COLT ขนาด.38 สเปเชียล สีเงิน จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 สเปเชียล จำนวน 6 นัด โทรศัพท์มือถือจำนวน 4 เครื่อง ถุงแบ่งพลาสติกสีใสชนิดเปิด-ปิดปากถุงในตัว จำนวน 141 ถุง พร้อมตรวจยึดของกลาง ตาม พ.ร.บ.มาตราการ รถยนต์ เก๋ง HONDA 1 คัน รถยนต์ ซูซู กิ SWIFT สีแดง หมายเลขทะเบียน กน3014 สุพรรณบุรี จำนวน 1 คันรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX150 สีน้ำเงินดำ หมายเลขทะเบียน 1กต4559 สุพรรณบุรี จำนวน 1 คัน

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ในลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป,จำหน่ายโดยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ในลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย”

พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบลำเลียงยาเสพติดามส่งมอบให้ลูกค้าที่บริเวณริมถนนทะเลบก-ด่านช้าง หมู่ 2 ต.ทะเลบก อ.ดอนเจดีย์ จว.สุพรรณบุรี โดยจะใช้ยานพาหนะเป็นรถยนต์เก๋ง ซูซูกิ สวิป สีแดง หมายเลขทะเบียน กน 3014 สุพรรณบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และ นำกำลังเฝ้าติดตามดูพฤติกรรมพร้อมวางแผนในการจับกุม ต่อมาวันที่ 23 พ.ย.65 เวลาประมาณ 22.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เฝ้าสังเกตุการณ์ซุ่มรออยู่ที่บริเวณจุดนัดหมาย ทางเจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋ง ซูซูกิ สวิป สีแดง หมายเลขทะเบียน กน 3014 สุพรรณบุรี ได้ขับมายังจุดนัดส่งยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าว พบ นาย ภัทร์นรินทร์ หรือโจ้/มินต์ จันทร์คนึง อายุ 25 ปี (เป็นผู้ขับขี่) และนางสาวฉันทนา หรือพลอย/ศรี ซื่อสัตย์ อายุ 22 ปี (นั่งโดยสารมาด้วย) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนรู้จักตัวเป็นอย่างดี จึงได้แสดงตนขอทำการตรวจค้นตัวนาย ภัทร์นรินทร์ และ นางสาวฉันทนายินยอมจากการตรวจค้นเจ้าหน้าที่พบของกลางยาบ้าจำนวน 2 ถุงรวมประมาณ 400 เม็ด จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยอีกว่า จากการสอบสวน นางสาว ฉันทนาฯ หรือพลอย/ศรี ให้การรับสารภาพว่าที่บ้านเช่าที่ตนพักอาศัยอยู่ยังมียาบ้าและยาเคตามีนซุกซ่อนอยู่อีกจำนวนมากทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้ควบคุมตัวนายภัทร์นรินทร์และนางสาวฉันทนามาทำการตรวจค้นที่บ้านพักหลังดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบของกลาง 1.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมจำนวน 110,400 เม็ด 2.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 (เคตามีน) รวมน้ำหนักชั่งรวมถุง (เคตามีน) ประมาณ 93.74 กรัม 3.ถุงแบ่งพลาสติกสีใสชนิดเปิด-ปิดปากถุงในตัว จำนวน 141 ถุง 4.โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 11 สีดำ จำนวน 1 เครื่อง 5.โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 11 สีขาว จำนวน 1 เครื่อง 6.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ VIVO สีดำรุ่น V2026 จำนวน 1 เครื่อง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนเจดีย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า จากการสืบสวนขยายผลของทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและได้รับแจ้งจากสายลับว่าที่ห้องเช่าเลขที่ 25/8 เป็นสถานที่พักเก็บยาเสพติดและเป็นที่ใช้มั่วสุมเสพยาและจำหน่ายยายาเสพติดของเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มเดียวกับ นางสาวฉันทนา ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงวางกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรม และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อวางแผนในการจับกุมกลุ่มขบวนการ ดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 24 พ.ย.65 เวลาประมาณ 18.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนที่เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณที่บริเวณห้องเช่าหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบนายธีรัตม์ หรือเพชร ประยงธนาวงศ์ อายุ 28 ปี อยู่ที่บริเวณหน้าห้องเช่าดังกล่าว จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อนายธีรัตม์ หรือเพชรพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แสดงท่าทีมีพิรุธ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงขอทำการตรวจค้น นายธีรัตม์ หรือเพชร ยินยอมให้ความร่วมมือพาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจค้นภายในห้องเช่าดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ 1.ยาบ้าจำนวน 87 มัดรวมประมาณ 174,000 เม็ด ยาไอซ์ จำนวน 12 กิโลกรัม 3. ยาเคตามีน จำนวน 5 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 509.6 กรัม 4.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 (เคตามีน) จำนวน 5 ถุง รวมน้ำหนัก 334.9 กรัม 5.ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) จำนวน 4 ถุง รวมน้ำหนัก เฮโรอีน ทั้งหมด 310.2 กรัม 6.ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาอี) จำนวน 13 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีใสชนิดเปิด-ปิดได้ จำนวน 1 ถุง 7.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 (ไนเมตาซีแพม) ยี่ห้อ Erimin 5 จำนวน 30 แผง รวมจำนวน 300 เม็ด 8.เครื่องชั่งน้ำหนักดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง 9.ถุงแบ่ง ถุงพลาสติกสีใสชนิดเปิด-ปิดได้ จำนวน 48 ถุง 10.ลังพลาสติกสีน้ำเงิน จำนวน 2 ใบ (บรรจุยาบ้า) 11.โทรศัพท์มือถือ VIVO สีฟ้า จำนวน 1 เครื่อง 12.อาวุธปืนลูกโม่ ยี่ห้อ COLT ขนาด .38 สเปเชียล สีเงิน จำนวน 1 กระบอก 13.เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 สเปเชียล จำนวน 6 นัด ซุกซ่อนอยู่ภายในห้องพักดังกล่าว

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนนายธีรัตม์ ให้การรับสารภาพว่ายาเสพติดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นพบทั้งหมดเป็นของตนเองจริง จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
โดยกล่าวหาว่า“ จำหน่ายโดยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า,ยาไอซ์,เฮโรอีน,ยาอี) ในลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป และจำหน่ายโดยมีไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน,ไนเมตาซีแพม) ในลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปและเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน”
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้มีการสืบสวนขยายผลถึงผู้ที่มีส่วยเกี่ยวข้องและทำการสืบทรัพย์เพื่อดำเนินการตาม มาตรการในการปราบปรามผู้กระทาความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ.2534 ต่อไป โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานในคดีให้รอบคอบ เพื่อให้สามารถดำเนินคดีลงโทษผู้กระทำผิดและขยายผลจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้จนถึงที่สุด ตามคติที่ว่า “คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์”

พลตำรวจโท ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้มอบสดเงินจำนวน 10,000 บาท ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติงาน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน และกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายให้ทำงานโดยยึดหลักกฎหมายและรอบคอบตามหลักยุทธวิธีตำรวจที่ได้ฝึกทบทวนมาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องข้าราชการตำรวจ ตามที่ ผบ.ตร. ได้ฝากข้อห่วงใย ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป ณที่บริเวณด้านหน้า กก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมืองสุพรรณบุรี จว.สุพรรณบุรี

Loading