วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

นครปฐม เปิดการแข่งขันกีฬาสีไร่ขิงเกมส์เทิดพระเกียรติพ่อหลวงรัชกาลที่ 9

​นครปฐม เปิดการแข่งขันกีฬาสีไร่ขิงเกมส์เทิดพระเกียรติพ่อหลวงรัชกาลที่9
เมื่อวันที่8กันยายน2560 ที่บริเวณสนามกีฬาโรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

 

โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยาเปิดการแข่งขันกีฬาสีไร่ขิงเกมส์เทิดพระเกียรติพ่อหลวงรัชกาลที่9 สมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยมีสุรสิทธิ์ ติยะวัชรพงศ์ ประธานกรรมการสถานศึกษา โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาสีไร่ขิงเกมส์เทิดพระเกียรติพ่อหลวงรัชกาลที่9 พร้อมด้วยนายวิวัฒน์ ชูศรีจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา นายจำรัส ตั้งตระกูลธรรม นายกเทศมนตรีเมืองไร่ขิง คณะครู และนักเรียน ร่วมพิธี จำนวนมาก เนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2521 สมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพล อดุลยเดช บรมนาถบพิตรเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดไร่ขิง อำเภอสามพราน และทรงเปิดป้ายอาคารเรียน โรงเรียนวัดไร่ขิงวิทยา

และเพื่อเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงได้ ทำไว้มากมาย ซึ่งในแต่ละคณะสีได้จัดขบวนพาเลซ ที่มีความงดงาม ทั้งโครงการพระราชดำริต่างๆที่พ่อหลวงรัชกาลที่9 ได้ทรงงาน เช่น โครงการชั่งหัวมัน คำพ่อสอน เพื่อเป็นการปลูกจิตสำนึกให้นักเรียน ซึ่งเป็นเยาวชน ได้ระลึกอยู่ตลอดในการดำรงตนในด้านต่างๆ เช่น เศรษฐกิจพอเพียง ตามพระบรมราโชวาท พระราชดำรัส เกี่ยวกับการกีฬา

“…การกีฬานั้น ย่อมเป็นที่ทราบกันอยู่โดยทั่ว ไปแล้วว่า เป็นปัจจัยในการบริหารร่างกายให้ แข็งแรง และฝึกอบรมจิตใจให้ผ่องแผ้วร่าเริง รู้จักแพ้ และชนะไม่เอารัดเอาเปรียบกัน มีการให้ อภัยซึ่งกันและกัน สามัคคีกลมเกลียวกัน อย่างที่เรียกกันว่ามี น้ำใจเป็นนักกีฬา…” ความตอนหนึ่ง ในพระบรมราโชวาท ในพิธีเปิดการแข่งขันกรีฑาประจำปี ณ กรีฑาสถานแห่งชาติ วันที่ 1 ธันวาคม 2498

เพื่อให้นักกีฬา สื่อในการสร้างความเข้าใจอันดี สร้างความสามัคคีกรมเกรียวให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ กีฬาจะเป็นสิ่งขจัดพฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนาของสังคม เช่นปัญหายาเสพติด การใช้กีฬาในการแก้ปัญหานับว่าเป็นการดำเนินการที่ถูกทาง ตามที่ทำกล่าวของเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีดีในเพลงกราวกีฬาที่ว่า กีฬาเป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำคนให้เป็นคน คนจะเป็นคนโดยสมบูรณ์ได้ต้องมีสุขภาพดีทั้งกายและจิตใจ กีฬาจึงเป็นสิ่งที่ช่วยให้คนมีสุขภาพดี ทั้งยังได้รับการสนับสนุนให้มีการจัดการแข่งขันกันอย่างกว้างขวางตั้งแต่ระดับโรงเรียนไปจนถึงระดับนานาชาติกีฬา ที่เป็นเครื่องกระชับไมตรีและความสามัคคีให้มีน้ำใจ นักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะและรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน ไม่มุ่งเอาแต่ชนะกีฬายังเป็นปัจจัยที่นำซึ่งประโยชน์สุขอย่างแท้จริงมาให้สังคมและประเทศชาติ

Loading