วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

เทศบาลเมืองนราธิวาสจัดงานประเพณีลอยกระทง เน้นแต่งกายย้อนยุค

เทศบาลเมืองนราธิวาส จัดงานประเพณีลอยกระทง เน้นแต่งกายย้อนยุค ใช้สิ่งประดิษฐ์จากธรรมชาติทำกระทง ดึงเยาวนสานต่อประเพณีและวัฒนธรรมไทย สู่คนรุ่นใหม่

 


ณ สวนกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2560 โดยมีนางฟาตีเมาะ สะดียามู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ นายกเทศมนตรี และคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองนราธิวาส หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมากท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาปรอยๆ
นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ นายกเทศมนตรี เทศบาลเมืองนราธิวาส กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทงได้กำหนดจัดในทุกพื้นที่ทั่วประเทศในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณที่มีชุมชนต่างๆที่อยู่ติดกับแม่น้ำ ลำคลอง หรือแหล่งน้ำต่างๆซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีเอกลักษณ์ที่น่าสนใจที่แตกต่างกันเพื่อแสดงความสำนึกบุฯคุณของน้ำที่ได้นำมาใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งขอขมาลาโทษในการทำให้แหล่งน้ำไม่สะอาด บูชารอยพระพุทธบาท และบูชาเทพเจ้าตามคติความเชื่อ รักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา และรู้ถึงคุณค่าของน้ำหรือแม่น้ำลำคลอง อันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของชาวไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ ดังนั้นเพื่อเป็นการสืบสานและอนุรักษ์สืบทอดประเพณีลอยกระทงให้คงอยู่สืบไป และส่งเสริมสัมพันธ์ภาพระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เยาวชน และชุมชน เทศบาลเมืองนราธิวาส จึงได้จัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2560 ขึ้น โดยมีกิจกรรมต่างๆ อาทิ ขบวนแห่กระทลใหญ่ จำนวน 11 กระทง โดยแห่ไปตามเส้นทางย่านธุรกิจ และชุมชนต่างๆในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส การประกวดกระทงใหญ่ ประเภทอนุรักษ์ และประเภทสร้างสรรค์ การประกวดกระทงประดิษฐ์จากวัสดุธรรมชาติ การประกวดนางนพมาศ การแสดงศิลปวัฒนธรรมของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล 1 สาธิตวิถีไทย ชมและชิมอาหารพื้นบ้าน พิธีขอขมาพระแม่คงคา และลอยกระทง
ด้านนายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า การจัดงานประเพณีลอยกระทงนั้น เป็นมรดกที่บรรพบุรุษของเราได้ปฏิบัติสืบทอดต่อๆกันมา จนกลายเป็นวัฒนธรรมของชาติที่งดงาม บ่งบอกถึงคุณค่าและลักษณะของความเป็นไทยอย่างแท้จริง และเราทุกคนต่างมุ่งหวังให้เยาวชนรุ่นต่อๆไปมีการสืบสาน และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่แสดงออกถึงความเป็นชาติที่มีอารยธรรมมาตั้งแต่โบราณให้คงอยู่สืบไป


“สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักร่วมกันก็คือ ในการสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีไทย ต้องทำควบคู่กันไปกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพราะปัจจุบันแหล่งน้ำจากธรรมชาติ ซึ่งเปรียบเหมือนเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของมวลมนุษยชาติ จึงจำเป็นต้องช่วยกันดูแลอย่างดีที่สุด ทุกฝ่ายต้องตระหนักให้ความร่วมมือจัดกิจกรรมรณรงค์คืนความสะอาด ความสมบูรณ์ให้แก่แม่น้ำ ลำคลอง และแหล่งน้ำต่างๆ ร่วมกันรณรงค์ให้ใช้วัสดุจากธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ง่ายในการประดิษฐ์กระทง หลักเลี่ยงการใช้โฟมทำกระทง หรือการใช้วัสดุอื่นๆที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบและอันตรายต่อแหล่งน้ำ”
ส่วนบรรยากาศในงานลอยกระทงของจังหวัดนราธิวาสในปีนี้ บรรดาผู้ผลิตและขายกระทงต่างพร้อมใจกันนำวัสดุธรรมชาติมาทำกระทงขายในราคาที่ไม่แพง จึงได้รับความนิยมจากประชาชนต่างหันมาช่วยซื้อกระทงจากธรรมชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยสร้างรายได้คืนสู่พื้นที่ โดยประชาชนส่วนใหญ่จะนำครอบครัว ลูกหลายมาร่วมลอยกระทงกันเป็นครอบครัว อีกทั้งเทศกาลลอยกระทงในปีนี้ได้รับความนิยมจากกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่ทั้งชาวไทยพุทธ และชาวมุสลิมในพื้นที่ต่างมาเที่ยวและร่วมลอยกระทงกันเป็นจำนวนมากท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาปรอยๆอยู่ตลอดเวลา และยังสร้างรางลอยกระทงลงแม่น้ำบางนรา เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่มาร่วมงานอีกด้วย โดยทางเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้จัดสถานที่และประดับประดาด้วยดอกไม้รอบบริเวณงานอย่างสวยงามตลอดเส้นทาง พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ อส.คอยรักษาความปลอดภัยตลอดจนเสร็จงาน.

ภาพ/ข่าว ซาการียา ดอเลาะ จ.นราธิวาส

Loading