ชัยภูมิ / รอง.ภาค3ลงตรวจสอบหาสาเหตุการตายหนุ่มคลั่งยาหลังใช้ไม้หน้า3ไล่ตีหมวดตร.ปางตาย แล้วชักคาห้องขังก่อนถูกส่งตัวไปเสียชีวิต รพ.
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 ต.ค.61 ความคืบหน้ากรณีหนุ่มวัย 27 คลั่งยาบ้าใช้ไม้หน้าสามไล่ตี ร.ต.ต.วิทยา อาจหาญ อายุ 49 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.ภักดีชุมพล (ร้อยเวร 20) ระหว่างรับแจ้งจากชาวบ้านให้ช่วยนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรีบไประงับเหตุคนร้ายรายนี้เกิดอาการเมายาบ้าคลั่งใช้ไม้ไล่ตีคนในหมู่บ้านไปทั่ว เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ( 7 ต.ค.61) จนทำให้ร.ต.ต.วิทยาฯ ถูกนายวายุ กัญญาประสิทธิ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่1 บ้านเหล่มทอง ต.แหลมทอง อ.ภักดีชุมพล ชัยภูมิ ใช้ไม้หน้าสามไล่ตีร.ต.ต.วิทยา จนหมดสติได้รับบาดเจ็บสาหัสเลือดคลั่งในสมองและถูกนำตัวส่งรพ.ภักดีชุมพล แต่อาการสาหัสได้ถูกส่งต่อมาที่รพ.ชัยภูมิ มาตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้เวลาประมาณ 21.30 น.ที่ผ่านมา ทางนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการ จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจที่รพ.ชัยภูมิ แต่อาการยังสาหัสทางตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิจึงเตรียมขอส่งตัวร.ต.ต.วิทยาฯต่อไปที่รพ.ตำรวจ ในวันนี้เพิ่มเติมแล้ว เพื่อทำการผ่าตัดสมองด่วนเพราะมีเลือดคลั่งในสมองเป็นจำนวนมาก เพื่อช่วยยื้อชีวิตนายตำรวจรายนี้ให้ได้โดยด่วนต่อไป
ล่าสุดวันนี้ เมื่อช่วงเวลา 13.00 น.วันที่ 8 ต.ค.61 พล.ต.ต. สุภากร คำสิงห์นอก รักษาการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3ได้พร้อมด้วยทางด้านพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ชัยภูมิ ได้เดินทางลงตรวจสอบในพื้นที่หลังทราบข่าวว่าน่ายวายุ ปัญญาประสิทธิ์ ผู้ต้องหารายดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้วพร้อมเปิดเผยความคืบหน้าต่อกรณีที่ร.ต.ต.วิทยา ฯถูกคนร้ายคุ้มคลั่งใช้ไม้ไล่ตีจนหมดสติได้รับบาดเจ็บสาหัสครั้งนี้ ล่าสุดได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.พีระพงษ์ ดมพรวัฒนะ ผกก.สภ.ภักดีชุมพลได้รับแจ้งจากแพทย์โรงพยาบาลภักดีชุมพล อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ ว่านายวายุ กัญญาประสิทธิ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่1 บ้านเหล่มทอง ต.แหล่มทอง อ.ภักดีชุมพล ชัยภูมิ ผู้ต้องหาที่คุ้มคลั่ง ก่อเหตุรายนี้ที่ ใช้ไม้หน้าสามไล่ชาวบ้านและ ร.ต.ต.วิทยา อาจหาญ อายุ 49 ปี ตำแหน่ง รอง สวป.สภ.ภักดีชุมพล (ร้อยเวร 20)ที่เข้าช่วยระงับเหตุครั้งนี้จนตำรวจนายนี้ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสได้เสียชีวิตลงแล้วที่โรงพยาบาลภักดีชุมพลและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งศพไปทำการผ่าพิสูจน์ศพอีกครั้งหนึ่งที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ กทม.เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้งหนึ่งให้แน่ชัด ซึ่งจากการตรวจสอบพบประวัตินายวายุ ปัญญาประสิทธิ์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหารายนี้เคยติดยาเสพติดและเคยถูกจับกุมดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองและยังเคยถูกดำเนินในคดีความพยามข่มขื่นและอนาจารหญิงสาวหมู่บ้านเดียวกันและถูกจับกุมซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุก 2 ปี หลังพ้นโทษ ออกมาได้ 2 ปี ก็ได้กลับมาเสพยาและคลุ้มคลั่งดังกล่าว โดยทางจนท.ได้พบหลักฐานชิ้นสำคัญคือกระดาษที่มีลายมือเขียนเป็นตัวหนังสือว่า “ฆ่ามันให้เบิดประเทศ” ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อประกอบในสำนวนคดีอีกด้วย
ส่วนอาการของร.ต.ต.วิทยา ฯยังน่าห่วง ซึ่งทางแพทย์รพ.ชัยภูมิ ได้ส่งตัวเคลื่อนย้ายไปทำการผ่าตัดเลือดที่คลั่งในสมองจนทำให้สมองบวม เพื่อช่วยเหลือชีวิต ที่โรงพยาบาลตำรวจ ที่กทม.เป็นการด่วนแล้ว แต่ก็ต้องช่วยกันลุ้นว่าจะสามารถช่วยยื้อชีวิตร.ต.ต.รายนี้ต่อไปได้หรือไม่ ขอทุกฝ่ายเป็นกำลังใจช่วยกันต่อไปด้วยที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดต่อไป
ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต. สุภากร คำสิงห์นอก รักษาการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 ได้เปิดเผยหลังจากการเรียกประชุมเข้มนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ยังไม่ได้ขอสรุปเบื้องต้น และยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดใดๆได้โดยเฉพาะสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ต้องหาในครั้งนี้ เนื่องจากทางบิดามารดาของผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่เสียชีวิตในครั้งนี้ได้ขอส่งร่างของลูกชายไปผ่าชันสูตร ที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุมเทพ เพื่อหาหลักฐานให้การใช้ชีวิตในครั้งนี้จึงจะสามารถยืนยันสาเหตุที่แน่ชัดในการเสียชีวิตทั้งนี้ได้ต่อไปอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้มีระเบียบการที่ผู้ต้องหาเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัว และมีอาการคุ้มคลั่งยา เกิดเสียชีวิตระหว่างถูกควบคุมตัวเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ทางตนเองได้สั่งตั้งกรรมการลงไปสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมดเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ที่ทุกเรื่องต้องสามารถชี้แจงรายละเอียดได้ไม่ยากและที่มาที่ไปของสาเหตุการเสียชีวิตก็สามารถตรวจได้ทุกอย่างได้ต่อไปอยู่แล้ว ว่าเกิดจากอาการคลั่งหรืออาการอยากยาจนชักหรือช็อกเสียชีวิตฉับพลันก็เป็นไปได้ทุกอย่าง ขอให้คณะสอบสวนข้อเท็จจริงตรวจสอบโดยละเอียดอีกครั้งเพื่อที่จะได้แจ้งให้ทราบต่อไป
ด้านที่บ้านนายวายุ ปัญญาประสิทธิ์ ผู้ต้องหาที่เสียชีวิต ญาติได้พากันเตรียมจัดงานศพ ขณะที่นายภัทราวุฒิ แดงหอม อายุ 45 ปี อาผู้เสียชีวิตได้กล่าวขอความเป็นธรรมกับผู้สื่อข่าวว่าการตายของนายวายุฯหลานชายญาติๆต่างติดใจว่าทำไมตำรวจถูกทำร้ายยังนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพบยาบาลชัยภูมิได้แต่ทำไมไม่ส่งตัวนายวายุฯไปรักษาที่โรงพยาบาลบาง ทำไมถึงปล่อยให้ตาย จึงอยากจะขอวอนสื่อมวลชนและผู้ที่เกี่ยวข้องให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกับหลานชายตนเองอีกด้วย
ทีมข่าว ชัยภูมิ
