วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

!!!เกษตรกรรวมกลุ่มเพาะขยายพันธุ์มะพร้าวกะทิขาย”

18 ต.ค. 2018
27

เกษตรกรรวมกลุ่มเพาะขยายพันธุ์มะพร้าวกะทิขาย

ชาวสวนมะพร้าวใน ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง จ.ราชบุรี รวมกลุ่มเพาะขยายพันธุ์มะพร้าวกะทิขายเสริมรายได้ หลังประสบปัญหาราคามะพร้าวแกงตกต่ำ จึงเพาะขยายพันธุ์ขายมะพร้าวกะทิขายหน่อละ 150 บาท ขณะที่ผลมะพร้าวกะทิมีราคาสูงหน้าสวนลูกละ 80 บาท โดยได้รับการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมการเกษตร

วันที่ 18 ต.ค.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า… เกษตรกรกลุ่มพันธุ์มะพร้าวกะทิคลองตาจ่า ต.คุ้งกระถิน อ.เมือง จ.ราชบุรี จำนวน 26 ราย ได้รวมกลุ่มกันหันมาเพาะขยายพันธุ์หน่อมะพร้าวกะทิส่งขาย หลังจากปัจจุบันมะพร้าวแกงประสบปัญหาราคาตกต่ำ เหลือลูกละไม่ถึง 5 บาท ทำให้เกษตรกรชาวสวนมะพร้าวที่เดือดร้อน ต้องหันมาหาวิธีการหารายได้เพิ่ม เห็นว่ามะพร้าวแกง 1 ต้นออกผลมา ภายใน 1 ต้นก็จะมีมะพร้าวกะทิปะปนมาด้วยประมาณ 1 – 4 ลูก บางต้นเป็นมะพร้าวแกงทั้งหมดไม่มีมะพร้าวกะทิเลยก็มี ดังนั้นมะพร้าวกะทิจึงยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค นำไปทำขนมหวาน หรือกินสดราดน้ำตาลทรายก็กินได้

ทั้งนี้แม้ว่าชาวสวนปลูกมะพร้าวจะมีปลูกกันมาหลายสิบปีแล้ว และพบมะพร้าวกะทิปะปนอยู่กับมะพร้าวแกงจำนวนมาก แต่มะพร้าวกะทินั้นก็ยังไม่มีแบรนด์เป็นของชุมชน ต่อมาทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เข้ามาสนับสนุนผ่านสำนักงานเกษตรอำเภอเมือง ได้แนะนำให้ชาวบ้านนำสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่นเข้ามาทำให้เกิดรายได้ในชุมชน จึงสนับสนุนงบประมาณสร้างโรงเรือน รวมกลุ่มกันเพาะขยายพันธุ์มะพร้าวกะทิ โดยรับซื้อจากชาวสวนและสมาชิกที่มีสายพันธุ์มะพร้าวกะทิอยู่เข้ามาเพาะพันธุ์เกือบ 2,000 ลูก จะมีช่วงระยะเวลาประมาณ 3 เดือน จึงจะขายและแบ่งเงินปันผลให้กับกลุ่มสมาชิกได้

โดยสมาชิกในกลุ่มมีความชำนาญในการคัดเลือกสายพันธุ์มะพร้าวกะทิ ออกจากมะพร้าวแกง ที่รับซื้อจากชาวสวน ช่วงที่เก็บเกี่ยวลงจากต้นจะต้องใช้มือเขย่าให้รู้ว่าลูกมะพร้าวลูกไหนเป็นมะพร้าวแกง ลูกไหนเป็นมะพร้ากะทิจริง ๆ แต่ที่จะเอามาเพาะเข้า เพาะในโรงเรือน ต้องใช้มะพร้าวที่ไม่เป็นกะทิเท่านั้น เพราะหากใช้มะพร้าวกะทิมาเพาะจะเกิดการเน่าเสีย วิธีการเพาะจะใช้มีดปาดบริเวณหัวนำไปวางเรียงในที่ร่มรดน้ำเช้าเย็น ประมาณ 2 เดือนมะพร้าวกะทิเริ่มแต่หน่อ 3 เดือนก็สามารถนำออกขายได้หน่อละ 150 บาท

ทั้งนี้นายสุวโรจน์ เทพเทียนชัย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ต.คุ้งกระถิน สมาชิกกลุ่มฯ กล่าวว่า มะพร้าวกะทินั้น บางต้นมีอยู่ประมาณ 2-3 ลูก บางต้นก็ไม่เจอเลย ที่เหลือก็จะเป็นมะพร้าวแกงเป็นส่วยใหญ่ โดยชาวสวนจะอาศัยความรู้เฉพาะตัวในการฟังเสียงเวลาเขย่าลูกมะพร้าวกะทิเสียงน้ำจะแตกต่างกัน เมื่อสอยลงจากต้นแล้วเขย่าฟังเสียงน้ำ ถ้าดังขลุก ๆ หนัก ๆ จะเป็นมะพร้าวกะทิเนื้อค่อนข้างเหนียวฟูหนา จะกินสดเอาน้ำตาลทรายมาราดรับประทานได้เลย หรือขายแม่ค้านำไปแปรรูปทำไอศรีม หรือจะแปรรูปตัดเป็นลูกเต๋าผสมใส่ขนมหวานทับทิมกรอบ รวมมิตร บัวลอยไข่หวานและขนมหวานทั่วไป

หากเป็นมะพร้าวธรรมดาเมื่อฟังเสียงจะมีเสียงน้ำมากใส ๆ เป็นมะพร้าวแกงทั่วไป ไม่เหมือนกัน โดยเจ้าของสวนจะทำตำหนิที่ต้นไว้ เช่น มะพร้าว 100 ต้น จะเป็นมะพร้าวกะทิประมาณ 40 ต้น แต่ละต้นมีมะพร้าวกะทิอยู่ไม่เท่ากัน และต้องใช้ความสามารถเฉพาะตัวของท้องถิ่นในการคัดเท่านั้น ราคาขายหน้าสวนตอนนี้เริ่มต้นที่ลูกละ 60 บาท แล้วแต่แม่ค้าจะเอาไปส่งขายที่ไหน บางที่ส่งที่กรุงเทพฯขายลูกละ 80 บาท แต่ที่ตลาดอัมพวา จ.สมุทรสงครามขายอยู่ลูกละ 180 – 200 บาท ตอนนี้มีออเดอร์ลูกค้าหลายราย ที่ติดต่อสั่งเข้ามากเอาแบบต้นหน่อไปปลูก แต่ยังไม่ครบกำหนดส่งให้

ส่วนทางด้านนายเชาว์ วิเศษโชค เกษตรอำเภอเมืองราชบุรี เปิดเผยว่า เป็นนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้มอบหมายให้อำเภอเมืองราชบุรี ดำเนินโครงการให้ชุมชนเป็นผู้คิดโครงการและเสนอให้ทางคณะกรรมการด้านการเกษตรระดับอำเภอเป็นผู้พิจารณา โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้สนับสนุนงบประมาณมาให้กลุ่มจำนวน 99,900 บาท มาจัดซื้อปัจจัยการผลิตให้กลุ่ม ส่วนค่าแรงทางเกษตรกรเป็นผู้ดำเนินการเอง ตามแผนที่ตั้งไว้ ถือว่าเป็นโครงการที่แตกต่างจากโครงการอื่น ๆ จุดเด่นคือ มะพร้าวเป็นพืชหลักในพื้นที่ที่มีการปลูกกันอยู่แล้ว เพียงแต่นำมะพร้าวกะทิมาเพาะขยายพันธุ์ต่อยอดสร้างรายได้เสริม ขณะที่ช่วงนี้ตลาดมะพร้าวมีราคาตกต่ำมีปัญหาอยู่ จึงเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่เกษตรกร นำจุดเด่นของมะพร้าวกะทิมาเป็นจุดขาย ขณะนี้มีเกษตรกรต่างจังหวัดติดต่อขอซื้อพันธุ์มะพร้าวกะทิแล้วจำนวนมาก เพราะยังไม่มีที่อื่นที่ทำมาก่อน ถือเป็นที่แรกก็ว่าได้ ที่มีแนวคิดทำโครงการดังกล่าวนี้ขึ้นมา

 

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Loading