วันศุกร์, 26 เมษายน 2567

สจ.เส็ง นักธุรกิจดังเมืองโพธาราม”ประกาศลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคประชาธิปัตย์”

26 พ.ย. 2018
43

สจ.เส็ง นักธุรกิจดังเมืองโพธาราม ประกาศลงสมัคร ส.ส. ในนามพรรคประชาธิปัตย์

นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี เตรียมลงสมัคสู้ศึกสมัครเลือกตั้ง ส.ส. เขต 3 ราชบุรี เผยชีวิตเคยลำบากเริ่มมาจากศูนย์ จึงอยากช่วยเหลือคนยากจน และขอเลือกพรรคการเมืองที่มีความเสียหายน้อยที่สุด ฝันอยากเป็นเหมือน นายบรรหาร ศิลปะอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พัฒนาเมืองสุพรรณได้ดี

วันที่ 26 พ.ย.61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า… นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 159 / 2 ถนนบ้านเลือกโพธาราม เขตเทศบาลเมืองโพธาราม อ.โพธาราม จ.ราชบุรี อดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี ประกาศตัวแล้วลงสมัคร ส.ส.ราชบุรี เขต 3 ในนามพรรคประชาธิปัตย์ มีความตั้งใจว่าอยากจะเดินเยี่ยมชาวบ้านทุกหลังคาเรือนในพื้นที่เขต 3 มี อ.โพธาราม และ อ.จอมบึงบางส่วน เนื่องจากชาวบ้านบางคนอาจจะไม่เคยเห็นหน้าหรือรู้จักมาก่อน จึงอยากให้รู้จักและพูดคุยกันได้รู้ตัวตนเป็นอย่างไร ขณะนี้ได้เดินเยี่ยมชาวบ้านผ่านมา 3 ตำบลในทุกหลังคาเรือนแล้ว มีความตั้งใจจะพยายามเยี่ยมเยียนให้ครบทุกหลัง

ทั้งนี้นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กล่าวว่า.. คาดหวังว่าจะชนะแต่เมื่อถึงเวลาอะไรจะเกิดก็จะปล่อยให้เกิด แต่ถามว่าถ้าชีวิตตนเองไม่ยุ่งเกี่ยวการเมืองเลย ครอบครัวตนเองก็แสนจะสุขสบายจากธุรกิจที่ทำอยู่แล้ว หลังจากที่ชีวิตตัวเองเคยลำบากยากจนมาจากศูนย์ โดยก่อนหน้าที่นี้ลงสมัคร สจ.ราชบุรี เมื่อได้เป็นก็ออกไปเยี่ยมชาวบ้านในพื้นที่ที่รับผิดชอบดูแล จึงได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ และชีวิตของชาวบ้านเยอะแยะมากมายที่ไม่เคยรู้มาก่อน พอมาเจอสภาพชาวบ้านที่ลำบากยากจนจริง ๆ มีทั้งผู้สูงอายุ บางครอบครัวไม่มีคนดูแลอยู่กันแค่สองคน อาศัยเพียงแค่เบี้ยยังชีพเลี้ยงตัวเอง บางหลังมีคนพิการอาศัยอยู่หลังคาพอกันแดนฝน เคยไปเยี่ยมพบยายที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนกำลังนั่งกินข้าว เพราะอยากรู้ว่ามีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง พอได้พูดคุยจึงรู้สึกมีความสุขกับการดูแลเยี่ยมคนยากจน และได้เริ่มช่วยเหลือกันมาตลอด จนค้นพบกับตัวเองว่ามีความสุขกับเรื่องการช่วยเหลือคนยากจน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการคิดลงสมัคร ส.ส.ตรงนี้ เพื่อที่จะได้มีแนวทางช่วยเหลือได้มากกว่าที่เราเคยทำไว้ ความจริงก็ไม่ได้คิดว่าจะมาเป็นนักการเมือง คิดว่าเป็นความผูกพันกับชาวบ้านมากกว่า โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะรักผมมาก เจอกันทีไรก็จะเข้ามากอด กลายเป็นความผูกพันกัน

นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ กล่าวอีกว่า.. ช่วงก่อนหน้านี้ได้เคยลาออกจากการเป็น สจ. ตอนนั้นรู้สึกโล่ง เพราะไม่ต้องห่วง ไม่มีภาระ เวลาไปไหนมาไหนก็จะไม่ต้องมาอยู่กับงานที่ดูแล แต่คนเราถ้าจะสร้างเนื้อสร้างตัวเองด้านครอบครัวขึ้นมาได้ ทุกคนคิดว่าสบายแล้ว แต่ไม่ได้หันไปดูแลสังคม ไม่ไปช่วยเหลือคนที่ลำบากกว่าเรา คิดว่าคนนั้นเป็นคนเห็นแก่ตัว อย่างตัวเองถ้าไม่ยุ่งก็จะอยู่อย่างคนสบาย ทุกวันนี้ทำไปโดยที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องได้คะแนนเสียง เพราะออกช่วยชาวบ้านทุกวันอยู่แล้ว

ส่วนตัวผมที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์นั้น คิดว่าจะลงพรรคที่สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองน้อยที่สุด คิดว่าถ้าเข้าไปแล้วมีส่วนหนึ่งที่ได้กลับมาดูแลพื้นที่ ได้ตอบแทนชาวบ้าน ก็ยังไม่รู้ว่าจะสามารถทำอะไรได้บ้าง หากได้เข้าไปแล้วแต่ไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเลยก็อยากจะพิจารณาตัวเองแน่นอน ตนใฝ่ฝันสูงว่าอยากทำงานลักษณะเหมือนท่านบรรหาร ศิลปะอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พัฒนาเมืองสุพรรณได้ดี แต่เป็นเพียงความฝันของตัวเอง เช่น อยากทำให้บ้านเมืองเจริญ ให้บ้านเรามีอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ อยากให้ทุกคนย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ส.ส.ที่เลือกเข้าไปกลับมาทำอะไรให้บ้านเมืองเราบ้าง อยากให้คิดแค่นี้ ทุกวันนี้ได้อะไรกับส.ส.ที่เลือกเข้าไป และเราเสียเวลากับตรงนี้ไปแค่ไหน ให้คิดแค่นี้ จึงคิดว่าตัวเองน่าจะทำอะไรได้มากกว่าที่ผ่านมา แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหน

ในสมัยเด็กๆ พ่อ แม่ ถูกโจรยิงตาย ตอนตัวเองอายุได้ 2 ขวบกว่า แต่โชคดีว่า มีคุณอา ได้นำตนกับพี่ชายสองคนมาเลี้ยงดูแล จนเติมใหญ่จึงรู้เรื่องความจน ความลำบาก เคยตั้งความฝันไว้อยากมีบ้าน มีรถ แต่ตอนนี้มีพร้อมทุกอย่างแล้ว ตนเองตั้งใจว่าถ้าเกิดชาวบ้านยังต้องการ ส.ส. แบบเดิมๆ เราคงไม่เหมาะกับการเมืองแบบนั้นแน่ แต่หากจะเป็น ส.ส.แล้วสามารถช่วยแก้ปัญหาชาวบ้านได้ตนจะไม่ปฏิเสธจริงๆ

สุจินต์ นฤภัย (เต้)

Loading