เซ็นทรัล วิลเลจ แถลงสื่อพร้อมเปิดบริการตามกำหนดเดิม
จากกรณีที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.)ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี สมุทรปราการ ฐานก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในเขตพื้นที่ของราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความครอบครองของกรมท่าอากาศยานไทย และเป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ในความดุแล ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทำให้ผู้รับเหมาและร้านค้าไม่สามารถนำรถเข้าไปจอดด้านในได้ จึงจอดที่บริเวณไหลทางทั้งสองฝั่งทางคู่ขนาด และจอดบนไหลทางถนนเส้นทางหลักทางด้านฝั่งซ้ายเป็นแนวยาวกว่า 2 กิโลเมตร จึงมีความกังวลว่าอาจจะทำให้ เซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ต ไม่สามารถเปิดดำเนินการได้ตามกำหนดการเดิมคือวันที่ 31 สิงหาคม นี้
ซึ่งในเรื่องดังกล่าว นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (29 ส.ค. 62) ทางศาลปกครองจะมีคำสั่ง ซึ่งไม่ว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาแบบไหน ทางโครงการก็พร้อมจะเปิดบริการในวันที่ 31 สิงหาคม นี้แน่นอน และถ้าศาลตัดสินว่าเซ็นทรัล ไม่มีความผิดตามที่คู่กรณีกล่าวอ้างก็อาจจะพิจารณาถึงความเสียหายและฟ้องกลับ ซึ่งจากนี้จะหาทางออกในเรื่องด้งกล่าวกับ ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(ทอท.) เพื่อนำที่กั้นทางเข้าออกต่อไป
ซึ่งทางกรมธนารักษ์ก็ได้นำป้ายหนังสือชี้แจง มาติดที่ทางเข้าออกของโครงการถึงกรณีบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)(ทอท.)
ได้ดำเนินการตรวจสอบพบว่า พื้นที่บางส่วนของการก่อสร้างโครงการ มีการรุกล้ำเข้ามาในที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ และเป็นเขตพื้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทอท. ในฐานะหน่วยงานผู้ดูแลพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างได้ และขอให้ดำเนินการรื้อถอน และเคลื่อนย้ายสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายในระยะเวลา 15 วัน ซึ่งทางกรมธนารักษ์ได้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ปรากฏว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุซึ่งได้มาโดยกรมท่าอากาศยาน (กรมการบินพาณิชย์เดิม) ดังนั้นกรณีที่ ทอท.ในฐานะผู้ดูแลแทนกรมท่าอากาศยานได้ดำเนินการให้เอกชนรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากที่ราชพัสดุบริเวณดังกล่าว จึงเป็นการดำเนินการที่เป็นไปตามกรอบ อำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดไว้
