วันเสาร์, 11 ตุลาคม 2568

สปส.นครปฐมสูตรคำนวนบำนาญใหม่ care. เพื่อความเป็นธรรม

นครปฐม101068สปส.นครปฐมสูตรคำนวนบำนาญใหม่ care. เพื่อความเป็นธรรม

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 ที่จังหวัดนครปฐม นางสาวสุกิจจา วานิชพงษ์พันธุ์ ประกันสังคมจังหวัดนตรปฐม มอบหมายนางสาวแววตา แก้วเจริญ นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ นายอำนาจ ประสงค์สุข นักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษเป็นวิทยากรบรรยายสิทธิประโยชน์ทั้ง 7 กรณีสร้างการรับรู้ให้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมและประชาสัมพันธ์สูตรบำนาญ care สูตรบำนาญใหม่care ร่วมแสดงความคิดเห็นในการปรับสูตรคำนวณบำนาญใหม่ ให้แก่ลูกจ้าง ผู้ประกันตน บริษัท หนองพงนก เบเกอรี่ แอนด์ ฟู้ด จำกัด เลขที่ 44/4 หมู่ 12 ด.สระสี่มุม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม


โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกจ้าง ผู้ประกันดนที่เข้ารับการอบรมได้รับความรู้ความเข้าใจขอเชิญชวนแสดงความคิดเห็นได้ตั้งแต่วันที่1-17 ตุลาคม 2568 จากนั้นนางสาวแววตา แก้วเจริญ ได้กล่าวในเรื่องของกรณีชราภาพเราจะรับได้มีสองเงื่อนไขคืออายุห้าสิบห้าปีและออกจากงานแล้วที่เราเกิดสิทธิ์ชราภาพ่ออายุห้าสิบห้าและออกจากงานแล้วเราก็จะดูว่ามีการส่งเงินครบมาแล้วทั้งหมดกี่งวดเดือนถ้ายังไม่ถึงร้อยแปดสิบเดือนก็ได้เป็นเงินก้อนไป เขาเรียกว่าบำเหน็จ
แต่ถ้าตรวจสอบแล้ว ส่งเงินมาร้อยแปดสิบเดือนขึ้นไป ก็จะเป็นบำนาญเราจะคิดบำนาญ อัตราบำนาญอยู่ที่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์


เป็นอัตราพื้นฐาน และถ้าส่งเกินร้อยแปดสิบเดือนทุกทุกหนึ่งปีเราจะให้อัตราบำนาญเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งจุดห้าเปอร์เซ็นต์ต่อปี การคิดสูตรบำนาญสูตรเดิมเอาค่าจ้างเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้าย ก่อนเดือนที่เราจะเกิดสิทธิ์ในเรื่องของรับชราภาพ ก็ห้าปีย้อนหลังลงไปว่าค่าจ้างเท่าไหร่ก็มาหาค่าเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้าย ได้ค่าจ้างเฉลี่ยเท่าไหร่ก็คูณกับอัตราของเงินบำนาญนั้นเช่นสมมุติว่าเราส่งเงินมาร้อยแปดสิบเดือนพอดี อัตราบำนาญของเราก็อยู่ที่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้พอดียี่สิบเปอร์เซ็นต์ ค่าจ้างเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้ายถ้าเกิดว่าเราคูณออกมาเราหาค่าจ้างเฉลี่ยออกมาแล้วหกสิบเดือนสุดท้ายค่าจ้างเฉลี่ยอยู่ที่หนึ่งหมื่นห้าพันบาทเราก็เอาหนึ่งหมื่นห้าพันบาทคูณยี่สิบเปอร์เซ็นต์ เป็นสามพันบาทคืออัตราบำนาญสวัสดิการรายเดือนที่เราจะได้ไปตลอดชีวิต
ค่าจ้างเฉลี่ยหกสิบเดือนสุดท้าย เพราะบางครั้งผู้ประกันตนตนมีการเข้าออกงานหรือในช่วงบั้นปลายช่วงอายุเยอะจำเป็นจะต้องออกจากงานใดก็แล้วแต่ทำให้บางรายอาจจะมีความจำเป็นที่อยากจะใช้สิทธิ์ประกันสังคมแล้วก็มาสมัครมาตราสามเก้า


พอสมัครมาตราสามเก้าก็จะมีผลในเรื่องของค่าจ้างเพราะถ้าเกิดว่าเราหยุดส่งประกันสังคมเราอายุห้าสิบห้าแล้วในขณะที่เรามีฐานค่าจ้าง ต่ำห้าปีสุดท้ายค่าจ้างเฉลี่ยก็จะลดลงไปด้วยซึ่งที่ผ่านมาก็คือส่วนใหญ่จะเป็นในเรื่องของผู้ประกันตนมาตราสามสิบเก้าที่สมัครส่งเงินต่อหลังออกจากงานมาตรา33และแล้วก็ส่งเงินมาตราสามเก้าซึ่งเป็นภาคสมัครใจ มีการส่งเงินมาเกินห้าปีแล้วพอรับอายุ 55 ชราภาพทำให้ฐานค่าจ้างคูณออกมาแล้วอยู่ที่สี่พันแปดร้อยทำให้ ฐานค่าจ้างนั้น สี่พันแปดกับหมื่นห้า เปรียบเทียบอยู่ที่ผู้ประกันตนเลือกยังไงฐานค่าจ้าง ก็ต้องเอาหมื่นห้าฐานค่าจ้างสูงสุดจึงเป็นที่มาในเรื่องของการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ปรับปรุงสูตรในการคำนวณบำนาญชราภาพเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้นโดยนำหลักการในเรื่องของ ค่าจ้างของแต่ละคนเอามาคำนวนซึ่งค่าจ้างเดือนไหนที่เรามีการนำสมทบทุกเดือนมีค่าเพราะเราจะเอาค่าจ้างนั้นมาคำนวณ ปรับเป็นมูลค่าปัจจุบันก่อน การปรับเป็นมูลค่าปัจจุบันเราจะปรับผ่านเพนชั่นพอยท์ว่าสูตรคำนวนที่มาที่ไปเป็นอย่างไร

 

 

Loading