น้ำท่วมหนักเมืองตะนาวศรีในรอบ 50 ปี กระทบการท่องเที่ยว ธุรกิจนำเข้าส่งออกด่านสิงขร – มะริด
วันที่ 22 กรกฎาคม นายสันทัด เดชเกิด นักธุรกิจนำเข้าส่งออก ไทย – เมียนมา จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้นักธุรกิจที่ทำการค้านำเข้าส่งออก และ บริษัททัวร์ท่องเที่ยว ระหว่างจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไป จ.มะริดระยะทาง 180 กิโลเมตร ไม่สามารถเดินทางโดยรถยนต์ได้นานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้มีผลกระทบกับธุรกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากหลายจังหวัดในมณฑลภาคตะนาวศรีภาคใต้ของเมียนมาได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุเซินติญทำให้มีปัญหาน้ำท่วมหนักในรอบรอบ 50 ปีที่ อ.ตะนาวศรี จ.มะริด ห่างจากชายแดนไทยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 100 กิโลเมตร และล่าสุดทราบว่าสถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย ประชาชนได้รับความเดือนร้อนมากกว่า 2 แสนคน เนื่องจากเส้นทางการคมนาคมสายหลักถูกตัดขาดพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก ชาวบ้านต้องนำเรือ และสร้างแพไม้ไผ่นำมาใช้เดินทางชั่วคราว ทำให้การท่องเที่ยว การขนส่งสินค้า ระหว่างด่านสิงขร-จ.มะริด ต้องหยุดชะงักทั้งหมด คาดว่าจะเดินทางได้ตามปกติในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ หลังจากถนนสายหลักจาก อ. ตะนาวศรีถึงบ้านทรายขาว บ้านมู่อง ถึงด่านสิงขร มีน้ำท่วมเส้นทางการคมนาคม 5 จุดระดับน้ำสูง1-2 เมตร บางช่วงมีน้ำท่วมระยะทางยาวกว่า50 กิโลเมตร ฝนตกหนักกระทบชาวสวนทุเรียนป่าละอูงดตัดขายหวั่นลูกค้าเจอปัญหาใส้ซึม
นางสุนันทา พิมพ์ไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านป่าละอู กว่า 100 ครอบครัว ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักทำให้สะพานข้ามฝายขาด 2 แห่ง การเดินทางเข้าออกพื้นที่เป็นไปด้วยความยากลำบาก ล่าสุดเจ้าหน้าที่กองช่างเร่งแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ด้วยการนำแผ่นเหล็กปูพาดบนสะพานที่ขาดให้ชาวบ้านสามารถเดินได้ ขณะที่สะพานอีกแห่งได้นำดินลูกรัง และหินมาถมให้เกษตรกรสามารถใช้ยานพาหนะขนส่งพืชผลการเกษตรได้ชั่วคราว และเจ้าหน้าที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในพื้นที่ฝนตก ส่งผลกระทบกับผลผลิตทุเรียนหมอนทองป่าละอูสินค้าเกษตรที่มีชื่อเสียง หลังจากชาวสวนไม่ตัดผลผลิตเพื่อจำหน่าย เนื่องจากเกรงว่าฝนที่ตกต่อเนื่องจะทำให้ทุเรียนมีปัญหาใส้ซึม
